ความแตกต่างระหว่างการกระตุ้นกับการจำลอง

　การจำลองคือการสร้างสภาพแวดล้อมขึ้นมาเพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ของคุณจะอยู่รอดได้ในสภาวะที่คุณคาดหวังให้ลูกค้าของคุณใช้ ตัวอย่างเช่น โทรศัพท์มือถือควรได้รับการทดสอบที่อุณหภูมิเยือกแข็งเพื่อให้แน่ใจว่าจอ LCD จะไม่ทำงานผิดปกติและยังทดสอบความร้อนเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ร้อนเกินไป

　การกระตุ้นคือการสร้างสภาวะสุดขั้วที่ปกติจะไม่เห็นในผลิตภัณฑ์ของคุณ โดยมีจุดประสงค์ที่จะทำให้เกิดความบกพร่องที่อาจมองไม่เห็นตามปกติแต่อาจก่อให้เกิดความบกพร่องได้ในอนาคต เช่น การทำให้โทรศัพท์มือถือเปลี่ยนอุณหภูมิกะทันหัน อาจทำให้บัดกรีที่ข้อต่อเสียหายได้ ซึ่งโดยปกติแล้วรอยแตกแบบเดียวกันนี้อาจใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะเกิดขึ้น

　ทั้งสองแบบต่างสร้างสภาพแวดล้อมที่รุนแรงและทั้งคู่ต่างทำขึ้นเพื่อมองหาความบกพร่อง ดังนั้นจึงค่อนข้างคล้ายกัน แต่มันยากที่จะทำให้เกิดรอยร้าวของบัดกรีโดยเพียงแค่ทำการทดสอบ "ความร้อน" การกระตุ้นจะช่วยเพิ่มความเครียด โดยการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิอย่างรุนแรงเป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของการกระตุ้นเท่านั้น

　การจำลองเป็นขั้นตอนแรกที่ดีในการตรวจสอบความสมบูรณ์ของการออกแบบของคุณ ในขณะที่การกระตุ้นช่วยให้มั่นใจได้ถึงความน่าเชื่อถือในระยะยาว

 การกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรวดเร็วมีทั้งหมดสามประเภทพื้นฐานดังนี้:

• การช็อกจากความร้อน — ถ่ายโอนจากความร้อนไปเย็นเกือบจะในทันที เหมาะสำหรับการโหลดตัวอย่างที่มีขนาดเล็ก
• การคัดกรองความเครียดจากสิ่งแวดล้อม (ESS) — หมุนเวียนอุณหภูมิที่ 5 ถึง 20 C/นาที โดยปกติจะใช้ในสายการผลิตเพื่อคัดกรองปัญหาในผลิตภัณฑ์ทั้งหมด
• การคัดกรองความเครียดด้วยความเร็วสูง (HASS) — เพิ่มอัตราการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของ ESS เป็นประมาณ 60C/นาที และเพิ่มความเครียดเพิ่มเติมของการสั่นสะเทือนพร้อมกัน

ที่มา : https://espec.com/na/chamber_faq/answer/stimulation